เล่าให้ฟัง EP.13 : Smart City ของประเทศเกาหลีและประเทศไทย

หน้าแรก /

อีเว้นท์ /

รีวิวอีเว้นท์ /

รีวิวอีเว้นท์

เล่าให้ฟัง EP.13 : Smart City ของประเทศเกาหลีและประเทศไทย

Eventpass Team

เผยแพร่เมื่อ 11 ส.ค. 2566

ตอนนี้ก็เข้าสู่ครึ่งปี 2023 กันแล้ว แน่นอนว่ากระแสปัญญาประดิษฐ์ AI ตอนนี้กำลังมาแรงมาก ไม่ว่าจะเป็นงานอีเว้นท์ การศึกษา รวมไปถึงการท่องเที่ยวก็มี AI เข้ามาเกี่ยวข้องกัน เล่าให้ฟังใน EP นี้ เราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับ Smart City ของประเทศที่สามารถขยายตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วอย่างประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีเมืองซองโด เป็นเมืองต้นแบบของ Smart City รวมไปถึง Digital City ของประเทศเกาหลีใต้ และ ขอนแก่น ต้นแบบ Smart City ของประเทศไทยกัน

เล่าให้ฟัง EP.13 : Smart City ของประเทศเกาหลีและประเทศไทย

เมืองซองโด ต้นแบบ Smart City ของประเทศเกาหลีใต้

คำว่า ‘Smart City’ หรือ ‘เมืองอัจฉริยะ’ นั้นหมายถึงเมืองที่ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการบ้านเมือง เป็นการร่วมมือกันทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาชนในการพัฒนาเมือง ภายใต้แนวคิดที่ว่า ‘การพัฒนาเมืองให้น่าอยู่ ทันสมัย เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพที่ดี มีความสุข อย่างยั่งยืน’

ประเทศเกาหลีใต้ถือเป็น 1 ในประเทศที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดในโลก ทำให้ทางประเทศเกาหลีใต้เริ่มมีแนวคิดของเรื่อง Smart City ขึ้นโดยนำร่องจากเมืองซองโดเป็นที่แรก

โดย ‘เมืองซองโด’ หรือ ‘Songdo International Business District (IBD)’ เมืองที่อยู่ติดกับสนามบินนานาชาติอินชอน ได้รับการวางแผนให้เป็น Smart City โดยใช้งบประมาณ 94,600 ล้านดอลลาร์ฯ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เท่ากับ 0 ภายในปี 2050

01 | Focusing on Songdo : เมืองต้นแบบของเกาหลีใต้

เพื่อลดการพึ่งพาพลังงานถ่านหิน และก้าวไปสู่การเป็นเมืองยั่งยืนอย่างแท้จริง ตัวอย่างแผนเมืองต้นแบบ ได้แก่ ‘Green New Deal’ แผนการลงทุนในอุตสาหกรรมสีเขียว ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของเกาหลีใต้ โดยเฉพาะยานพาหนะไฟฟ้าและรถยนต์ไฮโดรเจน

นอกจากนี้ซองโดยังสร้างแลนด์มาร์กแห่งใหม่มากมาย ทั้งตึกสูงที่สุดในเกาหลี ศูนย์การประชุม พิพิธภัณฑ์สัตว์สุดทันสมัย ไปจนถึงสนามกอล์ฟที่ออกแบบโดย Jack William Nicklaus สุดยอดนักกอล์ฟระดับโลก

02 | Focusing on Low Carbon : การเติบโตสีเขียว

เมืองซองโด ได้จัดสรรที่ดินกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียว ได้แก่ การสร้าง ‘Songdo Central Park’ สวนสาธารณะขนาด 255 ไร่ การออกแบบเมืองให้มีสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อคนเดินเท้าและผู้ใช้จักรยาน และสร้างรูปแบบการเดินทางที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อสะดวกสบายในการเดินทาง

ตึกในซองโดกว่า 8 แห่งยังได้รับการรับรองจาก LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) หรือ มาตรฐานการประเมินมาตรฐานอาคารสีเขียว ว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ ‘ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม’

โดยระบบโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดภายในเมือง ยังถูกออกแบบมาให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย เช่น

– ระบบจัดเก็บขยะ : ทุกหลังจะมีระบบทิ้งขยะและของเสียลงใต้ดินผ่านท่อขนาดใหญ่ ไปยังโรงงานรีไซเคิล เพื่อคัดแยกต่อไป

– ระบบการจัดการน้ำ : น้ำจะถูกเข้าสู่กระบวนการบำบัดน้ำเสีย เพื่อทำให้น้ำมีคุณภาพดีขึ้น ก่อนจะนำกลับมาใช้ซ้ำหรือระบายลงสู่แหล่งน้ำ

– ระบบพลังงาน : เน้นการใช้พลังงานจากธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้า พลังงานจากก๊าซธรรมชาติแทนการใช้น้ำมัน

03 | Focusing on High-tech Utopia : เติบโตอย่างชาญฉลาดนอกจากนี้ เมืองซองโด ได้นำเอาเทคโนโลยีต่าง ๆ มาไว้ในชีวิตประจำวันผ่านระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยที่เรียกว่า ‘U-City’ โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือ

– Public Service : การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการกับระบบสาธารณูปโภค

– Private Service : การนำเทคโนโลยีมาใช้ส่วนบุคคล ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้าน

ต้นแบบ Smart City ของประเทศไทย

อันที่จริงแล้ว Smart City นั่นเกิดขึ้นในหลาย ๆ ประเทศด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา ประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงประเทศไทย โดย Smart City ของประเทศไทยนั้น ต้องมีคุณสมบัติที่เป็นเมืองที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการ การบริหารจัดการเมือง เป็นการมีส่วนร่วมของภาคธุรกิจและภาคประชาชนในการพัฒนาเมือง เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข อย่างยั่งยืน โดยประเทศไทยมี 4 เมืองต้นแบบที่มีพื้นพัฒนาให้เป็น Smart City ได้แก่

ภูเก็ต ไอทีซิตี้ : จุดเริ่มต้นของสมาร์ทซิตี้

โดยความที่ภูเก็ตสามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติมาลงทุนด้านไอที เป็นแหล่งที่เหมาะทั้งทำงานและการพักผ่อน ทางภาครัฐจึงอยากให้ภูเก็ตเป็น IT City เมืองต้นแบบด้านเทคโนโลยีที่มีความชัดเจนมากที่สุด โดยสร้างจุดแข็งใหม่ให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางธุรกิจดิจิทัล ปัจจุบันมีการขับเคลื่อนใน 4 ด้าน คือ ด้านการท่องเที่ยว ด้านความปลอดภัย ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านเศรษฐกิจ

เชียงใหม่ : เมืองเกษตรอัจฉริยะ

มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการทำเกษตร ลดมลพิษทางอากาศ สนับสนุนการท่องเที่ยว พัฒนาจังหวัดและสังคมอย่างยั่งยืน ด้วยการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้งานให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนา โดยทำเป็น Smart Economy, Smart Tourism และ Smart Agriculture แต่ไม่ทิ้งวัฒนธรรมและวิถีชีวิตในรูปแบบล้านนา

ขอนแก่น : ขนส่งสาธารณะเปลี่ยนเมือง

จังหวัดขอนแก่นมีการพัฒนา Smart Bus เพื่อให้ประชาชนได้ใช้บริการได้ตลอด 24 ชม. พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี และผลักดันให้ขอนแก่นเป็น MICE CITY หรือเมืองศูนย์กลางภาคอีสาน พร้อมมีความเป็นผู้นำทางด้าน Smart City

ระยอง วังจันทร์วัลเลย์ : เมืองหลวงแห่งนวัตกรรม

โดยมีเป้าหมายให้เป็นฐานที่ตั้งสำคัญของเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) ซึ่งถูกกำหนดอยู่ในแผนการพัฒนาโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ยกระดับขีดความสามารถการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมให้แก่ทุกภาคส่วนของประเทศ และรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจตามนโยบาย Thailand 4.0

ขอนแก่น ผู้นำด้าน Smart City

ในมุมของการท่องเที่ยวแบบคนทั่วไป อาจมองว่า ขอนแก่นเป็นจังหวัดที่ไม่ได้โดดเด่น น่าสนใจเหมือนจังหวัดอื่น ๆ แต่จริง ๆแล้วขอนแก่นนั่นมีการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะยกระดับจังหวัดขอนแก่น สู่ ‘ฮับแห่งภาคอีสาน’ ที่จะมุ่งเน้นพัฒนาเมือง ชีวิตคนท้องถิ่นให้ดีขึ้น และยังส่งเสริมการท่องเที่ยว

รู้หรือไม่ว่า… ขอนแก่นเป็นจังหวัดที่มีประชาการมากเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย ทำให้เกิดปัญหาที่ตามมาคือ ‘ปัญหามลพิษ’ ‘การจราจรติดขัด’ ‘ขนส่งที่ไม่ครอบคลุม’ ดังนั้นจึงเกิดแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเมือง อย่าง Light Rail Transit System หรือ รถไฟฟ้ารางเบา ที่จะเข้ามาแก้ปัญหาขนส่งสาธารณะ และมลพิษจากจราจรติดขัด

Light Rail Transit System : LRT

รถไฟฟ้ารางเบา หรือ Light Rail Transit System : LRT เป็น โครงการก่อสร้างระบบขนส่งรถไฟฟ้ารางเบา ซึ่งมีทั้งหมด 4 Phase โดยเฟสแรกใช้เส้นทางเดินรถตั้งแต่ ตำบลสำราญ – ตำบลท่าพระ รวมระยะทางทั้งหมด 26 กิโลเมตร จำนวน 21 สถานี

นอกจากรถไฟรางเบาจะช่วยแก้ปัญหาจราจร และเพิ่มขนส่งสาธารณะให้กับเมืองขอนแก่นแล้ว โปรเจกต์นี้ยังมีการพัฒนาพื้นที่รอบสถานี มีสวนสาธารณะ บึงน้ำขนาดใหญ่ เป็น Public Space สำหรับคนเมือง เพิ่มพื้นที่ส่วนกลางสำหรับพักผ่อน และทำกิจกรรมต่าง ๆ อีกด้วย

โครงการรางสร้างเมือง-รางสร้างไทย คือ โครงการที่ออกแบบแผนธุรกิจด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานชุมชน กิจกรรมเชิงพาณิชย์ และพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกรอบพื้นที่สวนสาธารณะบึงแก่นนคร จำนวน 6 โครงการ เชื่อมต่อด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ‘รถแทรม’ ระยะทาง 4.4 กิโลเมตร โดย ‘รถแทรม’ มาจากเมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น เพื่อใช้ในการทดลองวิ่งเป็นรถไฟฟ้ารางเบา สามารถรองรับผู้โดยสารสำหรับนั่ง 36 ที่ และมีความจุผู้โดยสารได้สูงสุด 80 คน จากนั้นก็ได้เริ่มทำรถแทรมขบวนใหม่ โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานที่เพิ่งเปิดตัวไม่นาน

7 หัวใจสำคัญของ ขอนแก่น Smart City

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายหลัก การพัฒนาขอนแก่นให้เป็น Smart City ภายใต้ขอนแก่นโมเดล จึงมีโครงการที่แยกย่อยได้ถึง 129 โครงการ ภายใต้เสาทั้ง 7 ต้น ได้แก่

1.Smart Mobility เช่น รถรางขนส่งมวลชน 5 สาย, Smart City Bus รถประจำทางฟรี WiFi สามารถระบุพิกัดและเวลาในการให้บริการ, LRT โครงการขนส่งมวลชนรถไฟฟ้ารางเบา, Smart Loop ทำให้เกิดการเชื่อมโยงของระบบขนส่งในรูปแบบต่าง ๆ , Automation and City Logistics, รถไฟฟ้าแบบแชร์ใช้ ฯลฯ

2.Smart Living เช่น Medical and Healthcare Application Services พัฒนาฮับการรักษาพยาบาลด้วย IoT นำร่องที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่นและโรงพยาบาลศรีนครินทร์, Safety Khon Kaen ใช้เทคโนโลยี IoT ในการจัดการเมืองและความปลอดภัย, Universal Design ออกแบบอาคารพื้นที่ใช้สอย สิ่งอำนวยความสะดวกที่ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ ฯลฯ

3.Smart Citizen เช่น Stakeholder App แอปฯ สร้างความเข้มแข็งและการมีส่วนร่วมของชุมชนผ่านระบบ IoT, Smart Education สร้างระบบนิเวศเพื่อการเรียนรู้ของประชาชน, Idea Bank and Co-working Space สร้างแหล่งการเรียนรู้ เพื่อให้เกิดแหล่งการเรียนรู้ ออกแบบ และสร้างสรรค์สำหรับทั้งเยาวชนและผู้ประกอบการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ฯลฯ

4.Smart Economy เช่น MICE City เมืองที่เป็นศูนย์กลางจัดประชุมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, Smart Farming เกษตรอัจฉริยะ, Transit Oriented Development (TOD) พัฒนาพื้นที่โดยรอบระบบขนส่งมวลชน, E-SAN Trading Center แหล่งรวบรวมธุรกรรมและสินค้าของภาคอีสาน การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการค้า ฯลฯ

5.Smart Environment เช่น Urban Park System สร้างพื้นที่สีเขียวให้กับเมือง, Green Building ส่งเสริมการก่อสร้างอาคารสีเขียว, การจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง, ใช้เทคโนโลยี IoT ในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ฯลฯ

6.Smart Governance เช่น Open & Big Data ใช้ IoT ในการเปิดเผยข้อมูลของรัฐกับประชาชน, E-Government ใช้ IoT ในการบริการของรัฐทั้งภายในและระหว่างหน่วยงาน, Innovation and Digital Park สถาบันวิจัยและพัฒนาระดับโลก ส่งเสริมนักวิจัย ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ นักออกแบบ ตลอดจนชุมชน, ฯลฯ

7.Smart Energy เป็นการพัฒนาแยกมาจาก Smart Environment เช่น พลังงานอัจฉริยะ, Smart Grid System สร้างระบบพลังงานหมุนเวียนทดแทน, Electric Vehicle พาหนะพลังงานไฟฟ้า, ส่งเสริม Smart Building ที่ลดการใช้พลังงาน ฯลฯ

ทำ Digital ให้เป็น Utility

ไม่เพียงแต่โครงสร้างพื้นฐานด้านกายภาพ ที่จะนำมาแก้ไขปัญหาความยากจน และสร้างรายได้ให้กับชาวขอนแก่นเท่านั้น แต่ KKTT ยังมองไปถึงการสร้าง Virtual Income และการสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อส่งเสริม Digital Economy ซึ่งได้แก่

1.ก่อตั้ง Siam Metaverse เป็น Decentralized Autonomous Organization ภายใต้การดูแลของกลุ่มขอนแก่นพัฒนาเมือง (KKTT) ที่จะสร้างระบบนิเวศและโครงสร้างพื้นฐานบนโลกเสมือนจริง

2.ทำ NFT คนจน เช่น การทำ NFT จากลายผ้าโดยศิลปินพื้นบ้าน

3.ออกเหรียญ KGO Digital Utility Token (KGO = Knowledge Governance Token) เหรียญดิจิทัลที่ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยทีม Siam Metaverse ซึ่งชาวขอนแก่นและชุมชน รวมถึงบางจังหวัดอื่นเริ่มสามารถใช้ประโยชน์จากดิจิทัลโทเคนนี้ได้แล้ว

Thailand Smart City Expo 2023

ไหน ๆ เราก็มาพูดคุยเกี่ยวกับ Smart City กันแล้ว เพราะงั้นคงพลาดไม่ได้ที่จะมาคุยเกี่ยวกับงาน Thailand Smart City Expo 2023 งานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีระดับนานาชาติด้านเมืองอัจฉริยะ พบเทคโนโลยีและโซลูชันจากแบรนด์ที่จะมาจัดแสดงประสิทธิภาพเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ สัมมนาหากหลายหัวข้อจากผู้นำเมืองและผู้เชี่ยวชาญด้าน Smart City ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

รายละเอียดภายในงาน

1. Smart Telecom : Mobile Network, AI, โครงสร้างพื้นฐานคมนาคมการสื่อสารหรือโทรคมนาคม, Social Network และการจัดการข้อมูล

2. Smart Energy : พลังงานหมุนเวียน, การใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า, Electric Power Generation Tranmission System, Smart Grid และ Smart Power

3. Smart Living : Smart Building, Smart Lighting, Smart Appliances, Eco Building, Access Control & Security

4. Smart Industry & Retail : ระบบการจัดการคลังสินค้า, แพลตฟอร์มออนไลน์, ระบบหุ่นยนต์หรือเครื่องจักร, ระบบธนาคาร, Intelligent Shopping, Retail Visual Merchandising, โปรแกรมบริหารจัดการการขายสินค้าผ่านตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ, ระบบกระบวนการด้านการขนส่ง และTracking System

5. Smart Mobility : ระบบจอดรถ, รถยนต์ EV, ระบบขนส่งอัจฉริยะ (ITS) และระบบนำทาง

6. Smart Environment : Air Land and Water & Pollution, Control Technology, ระบบการบริหารจัดการสาธารณภัย, การบริหารจัดการขยะ, ระบบบำบัดน้ำเสีย, สุขศาสตร์อุตสาหกรรม

7. Smart Healthcare : การจัดระเบียบและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียด, Personalized Healthcare Solution

โดยงานในปีนี้จะจัดขึ้นในวันที่ วันที่ 22 - 24 พฤศจิกายน 2566 ณ Hall 3-4, ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ … https://thailandsmartcityexpo.com/

เป็นไงกันบ้างสำหรับ Smart City หลายคนคงได้ทราบถึงความสำคัญ และหัวใจหลักของ Smart City กันแล้ว ซึ่งในตอนนี้ประเทศไทยเองก็กำลังยกระดับให้หลาย ๆ จังหวัดกลายเป็น Smart City กัน ในครั้งต่อไปเราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Digital City กันบ้างว่าจะเป็นอย่างไร มีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง …

อ้างอิง

https://koreaeveryday.com/songdo

https://urbancreature.co/city-songdo/

https://thestandard.co/khon-kaen-smart-city/

https://www.whaleenergystation.com/technology/4426/

https://thailandsmartcityexpo.com/

หากคุณอยากได้การจัดงาน #Event แบบเต็มรูปแบบและครบวงจร ในส่วนของระบบลงทะเบียนหน้างาน หรือต้องการทำงาน Trade ในรูปแบบ Business Matching รวมไปถึงงาน Live Streaming และงาน #Virtual ต่างๆ สามารถติดต่อเราได้ที่ ..

🌏Website : www.eventpass.services

📱LINE Official @eventpassservices

บทความน่าสนใจ....