การเรียกร้อง feminism ผ่าน 6 ผลงานสะท้อนแนวคิดสตรีนิยม

นอกจากกระแสการพูดคุยผ่านโซลเชี่ยลเกี่ยวแนวคิดสตรีนิยม หรือ feminism เพื่อเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมแล้ว ในช่องทางอื่น ๆ เราจะเห็นเฟมินิสต์หลายคน ในหลายวงการอาชีพ แสดงความสามารถตามแนวคิดสตรีนิยมออกมาเป็นผลต่าง ๆ หรือแคมเปญ ภาพยนตร์ งานดนตรี ที่สนับสนุนแนวคิดสตรีนิยมให้ทุกคนรู้จักมาขึ้น

1.Judy Chicago ผู้บุกเบิกศิลปะสตรีนิยม

ถ้าให้ผู้ถึงตัวแม่แห่งวงการศิลปะที่บุกเบิกศิลปะสตรีนิยม ก็คงหนีไม่พ้น จูดี้ ชิคาโก หรือ จูดิธ ซิลเวีย โคเอน โดยศิลปะสตรีนิยมของเธอ จะมุ่งเน้นในการแก้ไขขนบธรรมเนียมเก่า ๆ ที่กดทับและด้อยค่าผู้หญิงในโลกศิลปะ ซึ่งแรงบันดาลใจของได้มาจากการประท้วงต่อต้านระบอบปิตาธิปไตยหรือชายเป็นใหญ่ในวงการศิลปะในช่วงยุค 1960 แล้วผลงานศิลปะดัง ๆ ของเธอจะมีหลายชิ้นที่บ่องบอกถึงแนวคิดสตรีนิยม อย่าง Menstruation Bathroom (1972) ที่ใช้ผ้าอนามัยและเลือด เปรียบเปรยถึงสัญลักษณ์ของความเป็นสัตว์ที่สตรีเพศมิอาจลบล้างออกจากตัวเองได้ในโลกของเพศชาย

2.Guerrilla Girls ทำการประท้วงและเปิดโปงความอัปยศของโลกศิลปะและสังคมที่มักจะกีดกันศิลปินหญิง

พวกเธอคือกลุ่มศิลปินเฟมินิสต์ที่ทำการประท้วงและเรียกร้องสิทธิสตรี ภายใต้หน้ากากกอลิร่า ที่พ้องเสียงกับคำว่า Guerrilla ที่แปลว่ากองโจร ด้วยกลยุทธ์ของพวกเธอคือจะแปะโปสเตอร์ที่สะท้อนแนวคิดเกี่ยวกับสตรีนิยม ด้วยการเล่นกับวัฒนธรรมป๊อปอย่างเฉียบคม และอารมณ์ขันแบบร้าย ๆ ซึ่งใครหลายคนยอมรับว่าวิธีการแบบกองโจรของ Guerrilla Girls เหนือชั้นกว่าเฟมินิสต์กลุ่มใด ๆ ที่ผ่านมา แล้วผลงานที่เด่นที่สุด โปสเตอร์ Do Women Have To Be Naked To Get Into the Met. Museum? (1989) หรือ “ผู้หญิงต้องเปลือยก่อนหรือ ถึงจะเข้าไปใน the Met ได้?” เป็นผลงานที่ใครก็พูดถึงและทำให้ Guerrilla Girls เป็นที่รู้จักมากขึ้น

3.Moxie หนังที่สะท้อนหลายอย่างเกี่ยวกับแนวคิดสตรีนิยม

เรื่องราวภายในหนังจะพูดถึง ‘เฟมินิสต์’ หรือแนวคิดสตรีนิยม โดยเริ่มต้นจาก วิเวียน คาร์เตอร์ เด็กผู้หญิงอายุ 16 ปีที่เบื่อเรื่องราวหลาย ๆ อย่าง รวมไปถึงการข่มเหงผู้หญิงในโรงเรียนของเธอ ซึ่งเรื่องนี้จะแสดงหลายแง่มุมที่เด็กผู้หญิงต้องเจอเรื่องไม่เป็นธรรมและไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ จากครู วิเวียนเลยตัดสินใจทำนิตยสารทำมือ โดยใช้ชื่อว่า ‘Moxie’ อธิบายเรื่องราวพื้นฐานของปัญหาชายเป็นใหญ่ และคำนิยามของเฟมินิสต์ พร้อมเชิญชวนให้ทุกคน ร่วมกันวาดรูปดาวบนมือ เพื่อเป็นการอารยะขัดขืนต่อปัญหาภายในโรงเรียน

4.That Mad Woman เพจเกี่ยวกับเฟมินิสต์และความเท่าเทียมทางเพศ

เจ้าของเพจและอินสตาแกรม That Mad Woman คือ น้ำว้า–ยี่หวา ไชยศิลป์ และ เมล–เมลดา ฉัตรวิสสุตา นิสิตชั้นปีที่ 3 คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เฟมินิสต์รุ่นใหม่ที่อยากจะส่งเสียงแทนผู้หญิงที่ถูกกดขี่ โดยนำเสนอคอนเทนต์เป็นภาพสไตล์เรโทร-สตรีท ใส่ข้อความเข้าใจง่ายเกี่ยวกับ toxic masculinity, sexual harassment, เพศศึกษาที่โรงเรียนไม่ได้สอน, บุคคลข้ามเพศ โดยหวังให้ทุกคนยอมรับสิทธิทุกสิทธิเท่าเทียมกัน ทุกคนเคารพซึ่งกันและกัน และไม่ต้องตีกรอบเพศว่าต้องเป็นแบบไหนถึงจะเป็นคนที่มีคุณค่า

5.ปานหยาดน้ำผึ้ง

หนังสื่อเล่มนี้ถูกเขียนโดย รูปี กอร์ นักประพันธ์ ศิลปิน และผู้ลี้ภัยชาวแคนาดาเชื้อสายอินเดีย วัย 26 ปี ในหนังสือเล่มนี้แบ่งเป็น 4 บท คือ รวดร้าว (the hurting) หลงรัก (the loving เลิกรา (the breaking) และ เยียวยา (the healing) ซึ่งแต่ละบทจะบอกเล่าเรื่องราวความรัก ความสูญเสีย ความบอบช้ำทางใจ การเยียวยา และความเป็นหญิง สะท้อนเรื่องราวการถูกกดทับในหลากหลายมิติของเพศหญิงในทวีปเอเชียใต้ ผ่านภาษาที่เรียบง่ายแต่ซื่อตรง 

6.คิมจียอง เกิดปี 82

หนังสือเล่มนี้ดังมาก ๆ ในไทย และในเกาหลีเพราะถือว่าเป็นหนังสือเฟมินิสต์ที่ตีพิมพ์ออกมาในช่วงที่ประเด็นเรื่องความเท่าเทียมทางเพศกำลังเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมเกาหลีพอดี แล้วพี่เบ หรือ ไอรีน วง Redvelvet แนะนำจนทำให้แฟนบอยแอนตี้และฉีดการ์ดเผาอัลบั้มกันเลยที่เดียว โดยหนังสือจะสะท้อนให้เห็นแนวคิดที่ฝังลึกอยู่ในสังคมชายเป็นใหญ่ ความคิดที่เชื่อว่าการเชื่อว่าผู้หญิงเกิดมาเพื่อเป็น ‘แม่และเมีย’ ความคิดที่เชื่อว่าผู้หญิงสุดท้ายก็ต้องแต่งงาน ออกจากบ้าน ไม่สามารถเป็นผู้นำครอบครัวได้ ซึ่งทำให้เกิดการกดขี่ตามมามากมาย นอกจากจะเป็นหนังสือให้อ่านแล้ว เรื่องราวในหนังสือยังเคยถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ โดยนักแสดงนำเป็น กงยู และ จองยูมิ

.

อ่านบทความ insight อื่น ๆ ได้ที่นี้เลย...

👉 Feminism แนวคิดคตินิยมของสิทธิสตรี

👉 เปิดคัมภีร์เคล็ดลับการไหว้พระจันทร์ ขอพรให้ปัง! สมหวังในทุกสิ่ง

👉 เตรียมตัวอัพเดท iOS 15 มีอะไรดีงามบ้าง..?