Think with Google เผย 3 เรื่องที่นักการตลาดไทยต้องรู้ในปี 2021

Think with Google เผย 3 เรื่องที่นักการตลาดไทยต้องรู้ในปี 2021

เขียนเมื่อ 29 ก.ค. 2564

Think with Google ได้วิเคราะห์การค้นหาข้อมูลบนโลกออนไลน์เเล้วนำมาวิเคราะห์ วิธีคิด มุมมอง ความสนใจ และพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละช่วงเวลา โดยจะสะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการตัดสินใจซื้อสินค้าของนักช็อป โดยได้นำข้อมูลของการค้นหาบน Google Search ในรายงาน Year in Search 2020 ฉบับประเทศไทย มาทำการวิเคราะห์ในครั้งนี้ ไปดูกันเลยครับว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่นักการตลาดไทยห้ามพลาด



ความต้องการสินค้าแต่ละผลิตภัณฑ์นั้นมีการเปลี่ยนแปลงและผันผวนอย่างมากในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน แบรนด์ต่างๆ จึงต้องคอยสอดส่องและติดตามพฤติกรรมเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งหนึ่งในตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพก็คือ Google Trends ที่แสดงการค้นหาสินค้าต่างๆ ของผู้บริโภคแบบ real-time

ความรู้เท่าทันพฤติกรรมของผู้บริโภคทำให้หลายธุรกิจสามารถเปลี่ยนกลยุทธ์และคว้าโอกาสทางธุรกิจไว้ได้ อย่างเช่นกรณีของ HomePro ที่นำข้อมูลจาก Google Trends และ Google Analytics มาวิเคราะห์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและนำไปปรับโปรโมชั่น รวมถึงนำเสนอสินค้าบนเว็บไซต์ของแบรนด์ ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการค้นหาของลูกค้าแต่ละคน



หลายคนอาจเข้าใจว่าการซื้อสินค้าออนไลน์ในปัจจุบันเกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มการขายสินค้าออนไลน์โดยตรง แต่ข้อมูลจากการค้นหาบน Google แสดงให้เห็นว่าผู้คนยังคงค้นหาสินค้ามากมาย ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า อีกทั้งสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในปี 2020 ยิ่งทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากใช้ช่องทาง Google Search ในการค้นหาสินค้าที่ตัวเองต้องการก่อนตัดสินใจซื้อ

สัญญาณดังกล่าวนำมาซึ่งกลยุทธ์สำคัญของนักการตลาดที่จะต้องอยู่ในช่องทางสำคัญๆของผู้บริโภค เช่น แสดงสินค้าบน Google Shopping ณ ช่วงเวลาที่ลูกค้ากำลังต้องการได้ทันที (ฟรี!) และใช้ประโยชน์จากอีคอมเมิร์ซพาร์ตเนอร์ เช่น Google Ads กับ Shopee ที่ช่วยให้แบรนด์สามารถโปรโมตร้านค้าบนอีคอมเมิร์ซและผลิตภัณฑ์ของตนที่อยู่ใน Shopee เหมือนกับที่ Brand’s Suntory ใช้โอกาสนี้จับเทรนด์การดูแลสุขภาพที่เพิ่มขึ้น และพากลุ่มเป้าหมายที่กำลังหาข้อมูลบน Google Search ไปยังช่องทางการจำหน่ายทางอีคอมเมิร์ซได้ทันที



15% ของคำค้นหาในแต่ละวันนั้นคำค้นหาใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน ซึ่งข้อมูลการค้นหาสินค้าและบริการของคนไทยในปี 2020 แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มใช้การค้นหาที่เจาะจงขึ้นกว่าเดิม และมีการใช้คำเฉพาะเข้ามาเพิ่มความแตกต่างในการค้นหา เช่นการหาสินค้าเซรั่มในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นถึง 37% นั้นมีการใช้คำเฉพาะ เช่นเดียวกับสินค้ากลุ่ม low involvemenอย่างโฟมล้างหน้า

.

รูปแบบการค้นหาที่เฉพาะเจาะจงนี้สะท้อนให้ว่าผู้ใช้งานชาวไทยได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะการค้นหาบน Google และแบรนด์เองก็จำเป็นที่จะต้องปรับโฆษณาให้สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของแต่ละคำค้นด้วย เช่น ถ้ากลุ่มเป้าหมายค้นหาด้วยคำว่า “รีวิว” แสดงว่าพวกเขากำลังอยู่ในช่วงต้นของการมองหาสินค้าอย่างหนึ่ง ก็จำเป็นจะต้องนำเสนอคอนเทนต์อย่างหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ได้เหมือนกับการค้นหาด้วยคำว่า “ซื้อ” ที่หมายความว่าผู้ค้นหาเข้าใกล้การตัดสินใจแล้ว และต้องนำเสนอคอนเทนต์อีกอย่างหนึ่ง

.

แนวคิดนี้ถูกนำมาใช้จริงโดยแบรนด์เครื่องสำอางในไทยแบรนด์หนึ่งที่รู้ว่า ผู้บริโภคใช้คำค้นหลายพันรูปแบบในการหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหนังรอบดวงตา พวกเขาจึงเลือกใช้คำค้นหลักอย่าง “ครีมลดริ้วรอยใต้ตา” และจับคู่คำค้นที่ใกล้เคียง (Broad match keyword) เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ของพวกเขากับกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการใช้ Responsive Search Ads ในการปรับคำโฆษณาต่างๆ ให้ใกล้เคียงกับรูปแบบคำค้นของลูกค้ามากที่สุด

Gallery


Subscribe & Get Promotion

บริษัท อีเว้นท์ไทย จำกัด

47/313 อาคารไคตัค ชั้น 5 ถนนป๊อปปูล่า ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120

ติดตามโปรโมชั่นได้รวดเร็วกว่า

DOWNLOAD EVENTPASS APPLICATION