เขียนเมื่อ 25 ก.ค. 2564
🧣🚿 ผ้าเช็ดตัว ของใช้ที่ต้องมีกันทุกคน แต่ละคนก็จะมีการใช้ที่แตกต่างกัน บางคนแยกระหว่างผ้าเช็ดตัวกับเช็ดหน้า บางคนใช้ผืนเดียวเช็ดทั้งตัวและหน้า หรือจะมีหลาย ๆ ผืนเพื่อสลับใช้ในแต่ละอาทิตย์ 📆
แต่รู้หรือเปล่าคะว่าความจริงแล้วผ้าเช็ดตัวเป็นสิ่งที่ต้องสัมผัสเชื้อโรคบ่อยมากที่สุด 😱 เรามักคิดว่าอาบน้ำเสร็จแล้วร่างกายจะสะอาดที่สุด จึงใช้ผ้าเช็ดตัวซับน้ำตามร่างกาย แต่ความจริแล้วไม่ใช่เลยค่ะ❗ เพราะถึงยังไงร่างกายของเราก็จะมีผิวหนังที่ตายแล้ว แบคทีเรียและเชื้อโรคต่าง ๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่บนผิวหนังติดมากับผ้าเช็ดตัว
📌 ดังนั้นถ้าเราไม่ทำความสะอาดบ่อย ๆ หรือซับน้ำเสร็จแล้วไม่ตากให้แห้ง ปล่อยให้อับชื้น ก็เหมือนกับเรากำลังสร้างบ้านให้เชื้อโรค 🤢 เพราะแบคทีเรียและเชื้อโรคชื่นชอบที่ชื้นอับ จะเริ่มขยายตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ! พอเรานำผ้ามาใช้ เชื้อโรคที่เติบโตพวกนั้นก็จะมาติดกับผิวของเราอีกครั้ง โดยอาจมีเชื้อโรคที่อาศัยอยู่บนผ้าเช็ดตัวถึง 10 ล้านตัว ‼
อันตรายที่อาจเกิดขึ้น 🆘
ผ้าเช็ดตัวสามารถเป็นพาหะของเชื้อโรค แบคทีเรีย และไวรัส ทุกชนิด! ไม่ว่าจะเป็น 👉 ไข้หวัด โรคผิวหนังต่าง ๆ ผื่นคัน ไวรัสหูด เป็นต้น และการที่เราไม่ยอมแยกประเภทของผ้าเช็ดตัวในแต่ละส่วน เช่น ใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกับการเช็ดหน้าด้วย จะยิ่งทำให้สิวขึ้นหน้าเพราะความบอบบางของผิวที่ต่างกัน เป็นต้น
ถ้าอย่างงั้น เราควรดูแลรักษาผ้าเช็ดตัวอย่างไรดี 🤔
◼ อายุการใช้งานของผ้าเช็ดตัว อยู่ที่ราว 1 - 3 ปี ถ้าผ้าเช็ดตัวเริ่มเปื่อยรุ่ย หรือมีจุดดำ ๆ ขึ้น ให้รีบเปลี่ยนทันที
◼ หลังจากที่ใช้ผ้าเช็ดตัวเสร็จแล้ว ควรนำไปตากแดดให้แห้ง เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อโรค
◼ ควรซักผ้าเช็ดตัวอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ดังนั้นควรมีผ้าเช็ดตัวสำรองเอาไว้ด้วย
◼ ควรซักผ้าเช็ดตัวเมื่อโดนสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำเหลือง น้ำมูก เป็นต้น
◼ ไม่ใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกับคนอื่น เพราะสามารถแพร่กระจายเชื้อโรคสู่คนอื่น ๆ ได้
◼ แยกผ้าเช็ดตัวตามประเภทการใช้งาน อย่างเช่น แยกผ้าเช็ดตัวสำหรับซับหน้า เช็ดผม และเช็ดตัว เป็นต้น
◼ เลือกใช้ผ้าเช็ดตัวที่แห้งไว ก็เป็นตัวเลือกที่สร้างความสะดวกสบายและช่วยลดการอับชื้นได้ดีอีกด้วย
source evpss.co/e968e1 , evpss.co/6cb54b
tutor