เขียนเมื่อ 06 ก.ย. 2564
สายตาสั้นจนตอนนี้ถ้าไม่ใส่แว่นก็แทบจะมองน้าเพื่อนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ไม่เห็นแล้ว! 😣 แย่จริง ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป วันไหนถ้าลืมหยิบแว่นมาใส่คือซวยไปทั้งวันแน่ ๆ เลย😓ลองคิดหาวิธีดู ใส่คอนแทคเลนส์จะดีไหมนะ? แต่ก็ต้องดูแลจุกจิกอีก หรือว่าจะทำเลสิกให้มันจบไปเลยในครั้งเดียวดีนะ? 🤔
📌 ก่อนอื่นเราต้องทราบก่อนว่า เลสิกเหมาะกับใครและไม่เหมาะกับใคร
◼ ต้องอายุ 18 ปีขึ้นไป
◼ ต้องมีค่าสายตาคงที่อย่างต่ำ 1 ปี หรือค่าสายตาสั้น - ยาว ไม่เกิน 50
◼ ไม่มีโรคเกี่ยวกับดวงตาหรือโรคที่ทำให้แผลหายช้าและเกิดการอักเสบ เช่น เบาหวาน จอประสาทตาเสื่อม
◼ ไม่เป็นผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือมีลูกวัยที่ยังไม่หย่านม
◼ แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ไม่ตอบโจทย์ต่อการใช้ชีวิต
◼ เป็นผู้ที่แพทย์วินิจฉัยว่ากระจกตามีความแข็งแรงพอที่จะทำเลสิกได้
ถ้าเข้าเกณฑ์ ไม่มีโรคหรือกำลังตั้งครรภ์ ก็สามารถเข้าปรึกษากับแพทย์เพื่อตรวจว่าเราสามารถทำเลสิกได้หรือไม่ นอกจากนี้อีกสิ่งที่ต้องรู้ก็คือประเภทของการทำเลสิก โดยจะมีอยู่ 4 รูปแบบด้วยกัน 👇
◼ ReLEx Smile เป็นเลสิกที่ใช้เลเซอร์ตัดเนื้อกระจกตาเป็นเลนส์ และเอาออกมาผ่านผิวกระจกตา เป็นเทคนิคล่าสุดของการทำเลสิก ค่าใช้จ่ายตกอยู่ที่ประมาณ 90,000 - 120,000 บาท
◼ Femto LASIK เป็นเลสิกที่ใช้เลเซอร์ทั้งในการเปิดฝากระจกตาและยิงเลเซอร์ที่กระจกตา มีความแม่นยำและปลอดภัยกว่าแบบอื่น ค่าใช้จ่ายตกอยู่ที่ประมาณ 70,000 - 100,000 บาท
◼ Blade LASIK เป็นเลสิกที่ใช้มีดเปิดฝากระจกตาก่อนแล้วยิงเลเซอร์ เป็นเลสิกที่คนนิยมกันมากที่สุด ค่าใช้จ่ายตกอยู่ที่ประมาณ 30,000-50,000 บาท
◼ PRK เป็นเลสิกที่ลอกผิวกระจกตาก่อนยิงเลเซอร์ ค่าใช้จ่ายตกอยู่ที่ประมาณ 30,000-50,000 บาท
ปล. ราคาอาจจจะแตกต่างกันไปตามโรงพยาบาลที่เข้ารับบริการด้วยนะ 💸
📌สิ่งที่ควรรู้ต่อมาก็คือ ข้อดี - ข้อเสีย ของการทำเลสิก โดยแอดจะขอพูดแบบโดยรวม
ข้อดีของเลสิก ส่วนใหญ่มักจะเกี่ยวกับระยะเวลาในการผ่าตัดและเวลาในการพักฟื้นที่รวดเร็ว สามารถทำให้ค่าสายตาของเรากลับมาชัดดังเดิมทันทีที่ผ่าตัดเสร็จ นอกจากนี้ยังอยู่อย่างถาวรอีกด้วย ไม่จำเป็นต้องทำซ้ำ
ข้อเสียของเลสิก ส่วนมากจะเป็นผลข้างเคียงหลังจากทำเลสิกไปแล้ว เช่น แผลติดเชื้อ ค่าสายตาขาดหรือเกิน ความชัดของสายตาไม่คงที่และภาวะตาแห้ง เป็นต้น
📌สุดท้าย หลังจากที่เราปรึกษาแพทย์และเลือกรูปแบบในการทำเลสิกที่เหมาะสมกับตัวเราแล้ว ก่อนเข้ารับการผ่าตัดจะต้องเตรียมตัวดังนี้ 👇
งดใส่คอนแทคเลนส์👓
ที่ให้งดใส่คอนแทคเลนส์ก่อนทำเลสิคเนี่ย เพราะจะช่วยให้ตรวจค่าสายตาได้ดีขึ้น! หยิบแว่นตาตัวเก่าออกมาใช้ไปก่อน แค่ 3 - 7 วันก่อนเข้ารับการรักษา ทนนิดเดียวแล้วหลังจากทำเลสิกเราก็ไม่ต้องพึ่งพวกนี้แล้วล่ะ
งดทายารักษาสิว ❌
ควรงดตั้งแต่ก่อนตรวจสภาพตาและก่อนผ่าตัด เพราะอาจส่งผลกับเยื่อบุตาและกระจกตา อาจทำให้ผลคลาดเคลื่อน
หลังตรวจไม่ควรขับรถ🚗
เพราะในการตรวจวิเคราะห์สภาพของกระจกตา แพทย์จำเป็นต้องหยอดยาขยายม่านตาด้วย ซึ่งจะทำให้ดวงตาของเราพร่ามัวไปอีกหลายชั่วโมงเลยล่ะ ทางที่ดีไม่ควรขับรถไปเองน้า ควรให้เพื่อนหรือครอบครัวพามาจะดีกว่า แต่ถ้าเดินทางเองรถสาธารณะก็ปลอดภัยเหมือนกัน
เตรียมลางาน 2-3 วัน⛔
หลังทำเสร็จเราจะต้องใส่ที่ครอบตาซึ่งมันจะเป็นรูเล็ก ๆ หลายรูให้เราสามารถมองเห็นได้อยู่ แต่ถึงยังไงมันก็ไม่ชัดเจนอยู่ดี อาจทำให้ไม่สะดวกในการเดินทางหรือทำงาน ทางที่ดีที่สุดคือหยุดงานสักพักหนึ่ง รอเวลาที่สามารถถอดที่ครอบตาออกได้แล้วดีที่สุด
สิ่งที่ควรทำในวันเข้ารักษา🚿
ควรสระผมมาให้เรียบร้อย เพราะหลังจากที่ทำเลสิกไปแล้วห้ามน้ำเข้าตาเด็ดขาด! เพราะแผลอาจจะเกิดการติดเชื้อได้ เสื้อผ้าควรใส่แบบที่มีกระดุมข้างหน้าเพราะเวลาเปลี่ยนเป็นชุดผ่าตัดจะได้สะดวก แล้วเวลาเปลี่ยนเสื้อกลับหลังผ่าตัดเสร็จจะได้ไม่มีอะไรมากระทบฝาครอบตาอีกด้วย และสุดท้ายคืองดฉีดน้ำหอม เพราะละอองของดอกไม้อาจทำให้ดวงตาของเราระคายเคืองได้นะ
ควรมีคนมารับกลับ👫
อย่างที่บอกไปว่าเราต้องใส่ฝาครอบตา เพราะฉะนั้นมีคนไปเป็นเพื่อน คอยไปส่ง-ไปรับ คือดีที่สุด ปลอดภัยกับตัวเรามาก ๆ หรือขึ้นรถสาธารณะก็เป็นอีกทางเลือกที่เข้าท่า แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้บริการรถด้วยนะ
หลังจากที่เข้ารับการรักษาแล้ว ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเลยนะ😠 ถ้าแผลติดเชื้อขึ้นมาจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ ฮือ นอกจากจะเสียค่าทำเลสิกแล้วยังต้องเสียค่ารักษาเพิ่ม กระเป๋าตังค์ได้แบนแต๊ดแต๋แน่นอน😭😭