A Cage of Fragile Heart (กรงขังแห่งอิสรภาพ)

“A Cage of Fragile Heart” การแสดงแนวทดลองที่จะพาคุณไปพบกับ วงจรของความฝัน การดิ้นรน การล่มสลาย และการค้นพบตัวตนอีกครั้ง

RCB Experimental Art Lab ร่วมกับ Follow the Star นำเสนอ “A Cage of Fragile Heart (‘กรงขังแห่งอิสรภาพ’) : Immersive Experimental Performance” การแสดงแนวทดลองที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับมนุษย์ กรอบพันธนาการ และเสรีภาพที่กลั่นกรองจากประสบการณ์และจิตวิญญาณ กำกับโดย ‘มัดหมี่ พิมดาว พานิชสมัย’ ศิลปิน Bangkok Art Biennale 2024 และผู้กำกับหนังสั้นแนวทดลองที่กวาดรางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์หนังสั้นมาแล้วมากมาย ร่วมด้วยนักแสดงมากความสามารถอย่าง ‘David Bigander’ บทกวีโดย ‘วิน นิมมานวรวุฒิ’ หรือ ‘กวีโรแมนติกร้าย’ และออกแบบการเคลื่อนไหวโดย ‘ภาวิดา วชิรปัญญาพร’

มนุษย์ต่างแสวงหาอิสรภาพ แต่ขณะเดียวกันกลับสร้างกรอบพันธนาการให้ตัวเอง

เรานิยามตัวตนผ่านสายตาผู้อื่น แบกรับความคาดหวัง และค่อย ๆ ห่างไกลจากความเป็นตัวเอง

“A Cage of Fragile Heart” คือบทสำรวจของจิตวิญญาณที่ผู้กำกับต้องต่อรองระหว่างเสรีภาพกับภาระหน้าที่ ความกลัว เเละความกล้า ถ่ายทอดผ่านทางผู้แสดงเพียงหนึ่งเดียวโดยใช้ร่างกาย เสียง และพื้นที่ สื่อถึงวงจรของความฝัน การดิ้นรน การล่มสลาย และการค้นพบตัวตนอีกครั้ง

“A Cage of Fragile Heart” การแสดงชุดนี้ประกอบด้วย 5 ส่วน คือ

0 — Innocent

การเริ่มต้นด้วยความบริสุทธิ์ มนุษย์เคลื่อนที่ไปตามแรงดึงดูดของความอยากรู้อยากเห็น ไร้พันธนาการจากภายนอก ตัวตนเป็นดั่งกระดาษเปล่า ไร้ซึ่งนิยามและเงื่อนไขใด ๆ เปิดกว้าง และไร้แบบแผน

1 — Social Attack / Influence

เมื่อก้าวเข้าสู่สังคม มนุษย์ถูกขับเคลื่อนด้วยความต้องการเป็นที่ยอมรับ การสวมบทบาทกลายเป็นวิถีทางในการได้รับความรักและความชื่นชม เสียงปรบมือ และสายตาที่จ้องมอง หล่อหลอมตัวตนจนแยกไม่ออกระหว่างสิ่งที่เป็นกับเปลือกที่สร้างขึ้น

2 — Trauma

น้ำหนักของความคาดหวัง เมื่อแรงกดดันเพิ่มมากขึ้น ความสุขที่เคยเกิดจากการเป็นที่ยอมรับกลายเป็นภาระหนักอึ้ง เสียงรอบข้างที่เคยเป็นเสียงชื่นชมกลายเป็นเสียงควบคุมที่ไม่มีวันเงียบลง มนุษย์กลายเป็นเครื่องจักรที่แข็งกระด้าง ซ้ำซาก และถูกบังคับ จนกระทั่งแรงกดดันนั้นแปรเปลี่ยนเป็นความรุนแรงที่กระทำต่อตัวเอง

3 — Lost

การละทิ้งและการหลงทาง เมื่อไม่สามารถรับแรงกดดันได้อีกต่อไป การหลบซ่อนตัวเองอาจดูเป็นทางออกเดียวที่เหลืออยู่ แต่นั่นคือการสร้างกรงขังขึ้นมาใหม่จากภายใน มนุษย์พยายามกั้นตัวเองออกจากโลก หลงอยู่ในภาพลวงตาของความปลอดภัย แต่แท้จริงแล้วกลับถูกพันธนาการด้วยความกลัวและความเชื่อที่ปิดกั้นเสรีภาพของตนเอง

4 — Found

เสรีภาพที่แท้จริงไม่ได้ถูกหยิบยื่นมาจากใคร แต่เป็นการที่มนุษย์กล้ายืนหยัดเพื่อตัวเอง เผชิญหน้ากับความเงียบและการมีอยู่ของสิ่งต่าง ๆ กล้าก้าวออกจากเงื่อนไขที่เคยยึดมั่นในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง

เกี่ยวกับผู้กำกับ นักแสดง และทีมงาน

ผู้กำกับ

มัดหมี่ พิมดาว พานิชสมัย (เกิด พ.ศ. 2532 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ) คือศิลปิน นักร้อง นักแสดง และผู้กำกับหนังสั้นแนวทดลองมากความสามารถ เธอจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนจิตรลดา และจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เอกดุริยางคศิลป์ตะวันตก จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยรางวัลเกียรตินิยมอันดับ 2

มัดหมี่ตกหลุมรักการร้องเพลงและการแสดงตั้งแต่ยังเด็ก จนกระทั่งได้โอกาสไปออดิชั่นละครเวทีและได้รับบท ‘แม่พลอย’ ในละครเวทีเรื่อง “สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล” หลังจากนั้นเธอก็ได้เริ่มเรียนการแสดงและกำกับกับ ‘หม่อมน้อย’ หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล ทำให้สนใจในศิลปะการแสดงและศิลปะการใช้ชีวิตมากขึ้น จนมีความฝันและความตั้งใจที่จะผลิตผลงานของตัวเองขึ้นมา โดยเธอได้สร้างหนังสั้นทั้งหมด 3 เรื่องด้วยกัน โดยแต่ละเรื่องจะเน้นการเคลื่อนไหว แสง และเอกลักษณ์ที่มีกลิ่นอายความเป็นละครเวที ซึ่งเรื่องราวจะมุ่งเน้นเกี่ยวกับจิตใจมนุษย์และสังคมโลก

ผลงานที่ผ่านมาในด้านละครเวที ได้แก่ สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล, ไกลกังวล Musical On The Beach, หยาดเพชร The Musical
ผลงานที่ผ่านมาในด้านละครทีวี ได้แก่ พันท้ายนรสิงห์, เลือดมังกร, มอม, ภาพยนตร์ซีรี่ส์ ศรีอโยธยา และ กรงดอกสร้อย
ผลงานที่ผ่านมาในด้านกำกับภาพยนตร์แนว Experimental Short Film ได้แก่ Starlight Experimental Short Film ซึ่งได้รางวัล Best Experimental Short จาก Best Global Shorts ประเทศอินเดีย, Maya Experimental Short Film ซึ่งได้รางวัล Honorable Mention จาก ARFF Berlin และ Fear Experimental Short Film ซึ่งได้รับการเสนอชื่อทั้งหมด 22 สาขารางวัลจาก 14 เทศกาลหนังต่างประเทศ อาทิ Best Experimental Film from Biff UK และ Best Short Film NYC Independent Film

นอกจากนี้ มัดหมี่ยังได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในศิลปิน Bangkok Art Biennale 2024 อีกด้วย โดยปัจจุบันเธอพำนักและสร้างงานศิลปะอยู่ในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

นักแสดง

David Bigander

David Bigander คือผู้กำกับภาพยนตร์และผู้สร้างสรรค์งานโฆษณาที่มีความสามารถรอบด้าน โดดเด่นด้วยทักษะการเล่าเรื่องที่เฉียบคมและแนวทางการสื่อสารผ่านภาพที่แปลกใหม่และสร้างสรรค์ เขาหลงใหลในงานศิลปะตั้งแต่วัยเยาว์ โดยเฉพาะในสาขาภาพยนตร์ การกำกับ และการแสดง โดยหลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านนิเทศศาสตร์ (สาขาโฆษณา) จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ David ได้เดินทางต่อไปยังมหานครนิวยอร์กเพื่อพัฒนาทักษะด้านการกำกับอย่างจริงจัง โดยเข้าศึกษาในสาขาการกำกับภาพยนตร์ที่ School of Visual Arts ซึ่งเป็นสถาบันศิลปะชั้นนำของสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งซึมซับบรรยากาศอันมีชีวิตชีวาและหลากหลายทางวัฒนธรรมของเมืองที่ไม่เคยหลับใหลแห่งนี้

นอกจากนี้ เขายังได้เข้าร่วมเรียนการแสดงและการกำกับกับ หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล (หม่อมน้อย) ซึ่งช่วยเสริมสร้างมุมมองและความเข้าใจลึกซึ้งในศิลปะการแสดงและการเล่าเรื่องเชิงภาพยนตร์ได้อย่างรอบด้าน ด้วยทักษะที่หลากหลายและแรงขับเคลื่อนทางความคิดสร้างสรรค์ ทำให้ David Bigander ได้ก้าวเข้าสู่วงการโฆษณาในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาและสร้างชื่อเสียงอย่างรวดเร็วจากวิสัยทัศน์อันเฉียบแหลม ผลงานของเขาได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ L’Oréal Paris, Nivea, Motorola และ Lenovo เป็นต้น

นอกเหนือจากงานโฆษณา เขายังมีผลงานที่โดดเด่นในวงการโทรทัศน์และภาพยนตร์ ทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ อาทิ ซีรีส์ Netflix เรื่อง “My Dear Warrior” (2019), ซีรีส์ที่ได้รับเสียงชื่นชม “BITE ME: The Series” (2021) และภาพยนตร์เรื่อง “Dear Kitakyushu” ซึ่งได้รับคัดเลือกให้ฉายในงาน Kitakyushu International Film Festival เมื่อเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 2023

ผลงานของ David Bigander สะท้อนถึงความหลงใหลในการเล่าเรื่อง ความเข้าใจในศิลปะการสื่อสารผ่านภาพ และความสามารถในการผสมผสานองค์ประกอบหลากหลายเข้าด้วยกันได้อย่างกลมกลืนและน่าประทับใจ

ทีมงาน

วิน นิมมานวรวุฒิ

วิน นิมมานวรวุฒิ เป็นนักเขียน กวีจากเพจกวี ‘โรแมนติกร้าย’ (IG @romanticraipoet) นอกจากนี้ ยังเป็นนักร้อง นักแต่งเพลง และเมลเฟมินิสต์ เจ้าของลายมือบทกวีสีชมพู ผู้ชอบบันทึกรอยยิ้มและเรื่องราวของผู้คนผ่านการเขียนบทกวีสด (Live Poetry) ด้วยพิมพ์ดีดสีชมพูอันเป็นเอกลักษณ์ วินได้แรงบันดาลในการสื่อสารเรื่องความเท่าเทียมทางเพศหลังจากที่เขาไปเรียนด้านการเขียนสร้างสรรรค์ที่นิวยอร์กและค้นพบตัวตนที่นั่น เขาเป็นผู้เขียนหนังสือบทกวี/ความเรียงขายดีอย่าง “โปรดอย่าใจร้ายกับหัวใจของเธอ”, “เธอจะไม่หลงทางบนถนนที่สร้างเอง” และ “เพราะหัวใจดี ๆ และเชอร์รีเป็นของเธอ”

โดยนอกจากผลงานเขียนแล้ว เขายังมีผลงานดนตรีในนามศิลปินเดี่ยวโดยใช้ชื่อ Win Nimman และเป็นนักวาดภาพในบางครั้ง โดยในปี ค.ศ. 2024 บทกวีและภาพวาดชิ้นหนึ่งของวินได้รับเลือกให้ถูกจัดแสดงบนบิลบอร์ดในย่านไทม์สแควร์ของนครนิวยอร์กอีกด้วย

แม้จะเป็นอินโทรเวิร์ต แต่วินก็ชอบจัดนิทรรศการศิลปะเพื่อพบเจอกับผู้ชมที่ชื่นชอบในงานศิลปะของเขา ด้วยความเชื่อที่ว่าบทกวีสามารถแปลงเปลี่ยนเป็นทัศนศิลป์ได้ทุกรูปแบบ ผลงานของเขาจึงถูกสื่อสารด้วยนิทรรศการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Miss Candy Heart (2019) หรือ Cherry Heart Sundae Shoppe (2024) อีกทั้งเขายังได้มีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์ระดับโลกมาแล้วมากมาย อาทิ Facebook Thailand และ Vogue

ภาวิดา วชิรปัญญาพร

ภาวิดา วชิรปัญญาพร เป็นนักออกแบบท่าเต้น นักเต้นร่วมสมัย และศิลปินการแสดง ผลงานของเธอคือการนำการเคลื่อนไหวมาสู่สุนทรียศาสตร์ที่หลากหลายผ่านสื่อต่าง ๆ อาทิ ทัศนศิลป์ ดนตรี งานออกแบบฉาก วิดีโอ และละครเวที โดยมักถ่ายทอดเรื่องราว อารมณ์ และสภาวะของมนุษย์ในบริบทของสังคมร่วมสมัย

หลังสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขานาฏศิลป์สากล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เธอได้ร่วมงานเป็นนักเต้นและนักแสดงหลักของ คณะพิเชษฐ กลั่นชื่น แดนซ์ คอมพานี ในช่วงปี ค.ศ. 2016 - 2020 และได้เดินทางแสดงผลงานในเทศกาลศิลปะและโรงละครระดับนานาชาติ อาทิ TPAM (ญี่ปุ่น), George Town Festival (มาเลเซีย), Asia TOPA (ออสเตรเลีย), Cloud Gate Dance Theatre (ไต้หวัน) ฯลฯ

นอกจากนี้ เธอยังมีผลงานทั้งด้านการแสดงและออกแบบท่าเต้นในเทศกาลในไทย เช่น BICTFEST, Bangkok Design Week, Mango Art Festival และ Bangkok Theatre Festival รวมถึงยังเคยร่วมงานกับผู้กำกับและคณะศิลปะจากหลายประเทศ อาทิ Jérôme Bel (ฝรั่งเศส), WHS Visual Theatre Company (ฟินแลนด์), IMAGINART SCENIC (สเปน), Kabinet K (เบลเยี่ยม), พิเชษฐ กลั่นชื่น (ไทย) ฯลฯ

การแสดง “A Cage of Fragile Heart” มีความยาว 40 นาที โดยจะทำการแสดงด้วยภาษาไทยพร้อมคำบรรยายภาษาอังกฤษ โดยจะจัดแสดง ณ RCB Forum ชั้น 2 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อกทั้งหมด 4 รอบ ตามวันและเวลาดังต่อไปนี้