การจัดแสดงนี้นี้รวบรวมศิลปินชาวเมียนมาแปดคน ได้แก่ ซิกกี้ เล (เกิด พ.ศ. 2543), ซิน มิน ไตค์ (เกิด พ.ศ. 2537), สวอนนี่ (เกิด พ.ศ. 2536), ร็อกซี่ โอวัน (เกิด พ.ศ. 2541), นา โทราห์ (เกิด พ.ศ. 2532), มีน ชิด ปาย (เกิด พ.ศ. 2533), เท็ต อ่อง ลวิน (เกิด พ.ศ. 2541) และ จอ มีน เท็ต (เกิด พ.ศ. 2543) ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่
นิทรรศการนี้ถ่ายทอดห้วงอารมณ์อันละเอียดอ่อนและปั่นป่วนของผู้คนที่จากบ้านเกิดมา ไม่ว่าจะด้วยแรงดึงดูดของความรัก แรงผลักดันจากการทำงาน หรือความจำเป็นในการเอาชีวิตรอด อีกทั้งความสัมพันธ์อันซับซ้อน ระหว่างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งและความรู้สึกแปลกแยกในเมืองใหม่ ที่ทั้งคล้ายคลึงและแตกต่างจากบ้านที่พวกเขาจากมา
งานศิลปะของพวกเขาเหล่านี้มีชีพจรของความเจ็บปวดอันแผ่วเบา จากจิตวิญญาณที่ลอยลิ่วระหว่างรากเหง้าและขอบฟ้า ผ่านสื่อที่เล่นกับมิติของเวลา อาทิ ภาพเคลื่อนไหว ภาพถ่าย ประติมากรรม และศิลปะการแสดง ศิลปินเหล่านี้ส่วนใหญ่ยังเป็นหน้าใหม่ในวงการศิลปะร่วมสมัย เสียงสะท้อนของพวกเขาสดใหม่ทว่ากังวานก้อง แม้หลายคนจะมีประสบการณ์ในฐานะบรรณาธิการแฟชั่นและงานเชิงพาณิชย์ต่างๆ แต่การแสดงผลงานครั้งนี้เกิดจากแรงบันดาลใจส่วนตัวมากกว่าเป้าหมายทางอาชีพ
นิทรรศการนี้จึงบันทึกความขัดแย้งระหว่างความคุ้นเคยและความห่างเหิน ผ่านแว่นของเพศสภาพไปจนถึงการผลัดถิ่น “If only it is seen, thus, from afar” เชิญชวนให้คุณหยุดชั่วครู่ในห้วงความคิดนี้ ที่ซึ่งดวงใจพี่น้องกำลังโอบอุ้มบ้านที่บาดเจ็บ และการร่ายรำอันเปราะบางของจิตวิญญาณปรากฏให้เห็นใกล้ๆ จากระยะไกล
เอส เอ ซี แกลเลอรี ขอเชิญทุกท่านร่วมงานเปิดนิทรรศการ “If only it is seen, thus, from afar” อย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ณ “Front Room” ห้องจัดแสดงใหม่ล่าสุดของ เอส เอ ซี แกลเลอรี มาร่วมพบปะกับศิลปิน ภัณฑารักษ์ และผู้คนในวงการศิลปะ พูดคุย แลกเปลี่ยน และเฉลิมฉลองพลังของการเล่าเรื่องผ่านศิลปะร่วมสมัยจากเมียนมาในบรรยากาศที่อบอุ่นและเปี่ยมแรงบันดาลใจ