fb
หน้าแรก /
อีเว้นท์ /
ศิลปะและออกแบบ /
WWW นิทรรศการศิลปะและการประมูลสุดพิเศษจาก The Art Auction Center
ศิลปะและออกแบบ
WWW นิทรรศการศิลปะและการประมูลสุดพิเศษจาก The Art Auction Center
Eventpass Team
เผยแพร่เมื่อ 16 พ.ค. 2568
fav
fav

ก้าวสู่โลกแห่งการเชื่อมต่อ “WWW” นิทรรศการศิลปะและการประมูลสุดพิเศษจาก “The Art Auction Center”


“WWW” นิทรรศการศิลปะและการประมูลสุดพิเศษจาก “The Art Auction Center”


ในโลกที่ทุกอย่างเชื่อมโยงกันได้เพียงปลายนิ้ว—แต่ทำไมเรากลับรู้สึกห่างเหินกันมากขึ้นเรื่อย ๆ? แล้วศิลปะจะพาเรากลับมาเชื่อมต่อถึงกันอย่างแท้จริงได้อย่างไร? 

คำตอบบางส่วนอาจอยู่ใน “WWW” นิทรรศการศิลปะและการประมูล โดย The Art Auction Center ซึ่งเปิดพื้นที่ให้เราทบทวนความหมายของการเชื่อมต่อในยุคดิจิทัล ผ่านผลงานศิลปะชั้นเยี่ยมจากศิลปินไทย 136 ผลงาน ที่พร้อมสะกิดใจและตั้งคำถามกลับไปยังผู้ชมทุกคน

บริษัท ดิ อาร์ต อ๊อคชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด สถาบันการประมูลศิลปะอันดับ 1 ของไทย เชิญชมนิทรรศการศิลปะ “WWW” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 25 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.00 – 18.00 น. ณ ท่าพิพิธภัณฑ์ ก่อนเข้าสู่การจัดประมูลในวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2568 เวลา 14.00 น. ณ ท่าพิพิธภัณฑ์ 

การแสดงงานศิลปะภายใต้แนวคิด “โลกของการเชื่อมต่อ” ครั้งนี้เชิญชวนผู้ชมสำรวจบทบาทของศิลปะท่ามกลางคลื่นข้อมูลที่หมุนเวียนในยุคดิจิทัล งานศิลปะไม่เพียงแต่เชื่อมโยงผู้คน แต่ยังสะท้อนความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง ท่ามกลางโลกที่ดูเหมือนจะเชื่อมต่อกันตลอดเวลาแต่กลับห่างไกลจากความเข้าใจ ศิลปะจึงกลายเป็นเสมือนเข็มทิศที่นำทางเรากลับสู่แก่นแท้ของตนเอง

“ในยุคที่ทุกสิ่งดูจะหมุนเร็ว ศิลปะกลับทำหน้าที่เป็นพื้นที่หยุดนิ่งให้เราได้ทบทวน และเชื่อมต่อกับสิ่งที่ลึกซึ้งกว่า” 

คุณพิริยะ วัชจิตพันธ์ ผู้ก่อตั้งบริษัท ฯ ได้พูดถึงแนวคิดหลักและแรงบันดาลใจในการจัดนิทรรศการ “WWW” พร้อมเสริมว่า...

“นิทรรศการ WWW เป็นเหมือนการเปิดหน้าต่างให้กับทั้งคนรักศิลปะและผู้เริ่มต้น ได้กลับมารับรู้คุณค่าที่แท้จริงของการมองเห็น”


ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งการเชื่อมต่อ 

“ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งการเชื่อมต่อ ที่หน้าต่างเสรีแห่งโอกาสและระยะทางแบ่งกลางระหว่างผู้คนคล้ายจะเลือนหายไปโดยสิ้นเชิง มนุษยชาติเชื่อมโยงถึงกันกว่าครั้งไหน ๆ ด้วยเส้นใยเครือข่ายไร้รูปธรรม ถักทอต่อขยายจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของภาวะตระหนักรู้ของเราไปโดยไม่รู้ตัว นี่คือพื้นที่ซึ่งเรานั้นใช้สนทนา สื่อสาร บันทึกเรื่องราวและจะร่วมฝันไปพร้อมกัน 

ด้วยระบบนามธรรมอันกว้างใหญ่ที่ผู้คนในอดีตไม่อาจจินตนาการไปถึง เรามองเห็นโลกด้วยสายตากว้างไกลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เวลาคล้ายเคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็วกว่าที่เป็นจริง ชีวิตดำเนินบนความรีบเร่ง แม้ว่าอินเทอร์เน็ตนั้นได้ทำให้โลกทั้งใบอยู่เพียงปลายนิ้ว ช่วยให้เรามองเห็นได้มากขึ้น ทว่าในหลายครั้งกลับต้องแลกด้วยการมองสิ่งนั้นอย่างลึกซึ้งให้กระจ่างโดยแท้ การรับรู้ถูกทวีคูณ แต่ความกระจ่างกลับกลายเป็นสิ่งหายากขาดแคลน กระนั้นท่ามกลางกระแสดังกล่าว ยังมีบางสิ่งที่มั่นคงดำรงอยู่ บางสิ่งที่ลึกซึ้งและยังคงความเป็นมนุษย์โดยแท้

เมื่อเราล่องลอยอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆของโลกดิจิทัล บ่อยครั้งที่เราหลงลืมความหนักแน่นของผืนดินใต้เท้า ไร้น้ำหนักรายล้อมด้วยข้อมูล แต่ละผลงานศิลปะเปรียบเป็นหลักยึดสากล นำพาผู้คนพเนจรกลับคืนสู่ทางสามัญ ศิลปะเปิดมุมมอง สอนเราให้มองโลกกว้างออกไป ขณะเดียวกันก็หันเราทบทวนตนเข้าสู่ภายใน ถามหาไม่ใช่เพียงสิ่งที่เรารู้ แต่ปรารถนาที่จะเห็นความเป็นตัวเราที่แท้ภายใต้เปลือกนอก โลกดิจิทัลแห่งนี้ก้าวนำเราเข้าใกล้วิสัยทัศน์นั้น รวดเร็วขึ้น ครอบคลุมขึ้น และเต็มไปด้วยมิติใหม่ให้ค้นหา ในพื้นที่ร่วมแห่งนี้ การเชื่อมต่อจึงมิใช่แค่การเข้าถึง แต่คือการเข้าใจ

เมื่อชีวิตเต็มไปด้วยถ้อยคำปรัชญาหยิบยืม เราอาจหลงลืมแรงผลักดันแท้จริงในใจ “WWW” นิทรรศการล่าสุดจาก The Art Auction Center ขอเชิญคุณเข้าสู่โลกของการเชื่อมต่อ ที่แรงบันดาลใจและความหลงใหลสามารถเดินทางไกลเกินเครือข่ายใด ที่นี่ เรามิได้เชื่อมโยงกันด้วยสายสัญญาณ หากแต่ด้วยสิ่งที่เรารู้สึกอย่างแท้จริง กว่า 136 ผลงานที่เราภูมิใจนำเสนอ จะค่อย ๆ ผูกพันกับคุณด้วยความหมายอันแท้จริงในตัว งานศิลปะ ณ ที่แห่งนี้ ผู้ชมหาต้องพึ่งใช้อาศัยสัญญาณใดในการเข้าถึงเชื่อมต่อ เพราะศิลปะคือช่วงเวลาไร้บรรจบในตัวเอง เปรียบดังนาฬิกาทรายที่ไม่มีวันหมดเม็ดทราย และคุณค่าแท้จริงนั้นจะไม่เสื่อมสลายไปตามกาลเวลา” 


สำรวจผลงานเด่นจาก “WWW”

ภายในนิทรรศการศิลปะและการประมูล “WWW” คุณจะได้พบกับผลงานศิลปะ 136 ชิ้นจากศิลปินไทยระดับแนวหน้า ทั้งศิลปินชั้นครูผู้เปี่ยมประสบการณ์ และคนรุ่นใหม่ที่น่าจับตา ผ่านผลงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่งานจิตรกรรมคลาสสิกไปจนถึงสื่อผสมร่วมสมัยและผลงานแนวทดลองที่ฉีกกรอบการนำเสนอแบบเดิม โดยแต่ละชิ้นล้วนถ่ายทอดแนวคิด อัตลักษณ์ และเรื่องเล่าที่แตกต่าง ตั้งแต่การตั้งคำถามต่อโลก ไปจนถึงการสำรวจความรู้สึกส่วนลึกในจิตใจมนุษย์ อย่างลึกซึ้งและทรงพลัง 

ไฮไลท์ของงาน อาทิ … 

“UMBRELLAS” โดย กิตติ นารอด (ปี 2564) เทคนิค: Acrylic on canvas ราคาประเมิน: THB 1,000,000 – 1,500,000

 ผลงานจิตรกรรม "Umbrellas" ชิ้นนี้ ของกิตติ นารอด เป็นภาพกลุ่มคนยืนกางร่มกลางสายฝน ผลงานได้แสดงเอกลักษณ์ของศิลปินออกมาได้อย่างชัดเจน เห็นได้จากการเลือกใช้ชุดสีที่หลากหลายและมีสีสันสดใส เช่น การเลือกพื้นหลังของผลงานสีชมพูสว่าง ลักษณะการวาดผู้คนในผลงานที่มีความเรียบง่าย ทั้งใบหน้า รูปร่าง และเสื้อผ้าที่เหล่าตัวละครในภาพวาดสวมใส่ รวมถึงแนวความคิดของศิลปินที่มักนำเสนอ เรื่องราวใกล้ตัว ทั้งยังแฝงไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมประชานิยม (Pop Culture) และได้ผลักดันความธรรมดาพื้นฐานเหล่านั้นให้กลายเป็นสัญลักษณ์ต่อแนวคิดที่มีต่อสังคมองค์ประกอบเหล่านี้ต่างส่งเสริมให้ผลงานไม่มีความซับซ้อนมากจนเกินไป ทั้งยังชวนให้ผู้ชมเพลิดเพลินต่อการค่อย ๆ กวาดสายตาพิจารณารายละเอียดของผลงาน

“THE ENDLESS WAVES” โดย อเล็กซ์ เฟส x มือบอญ (ปี 2565) เทคนิค: Spray, acrylic gouache and oil on a vintage galvanized advertising board ราคาประเมิน: 1,500,000 – 1,800,000 บาท 

 อเล็กซ์ เฟส และมือบอญ ศิลปินแนวกราฟฟิตี้ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของไทยและยังได้รับการยอมรับในต่างประเทศ ผลงานของทั้ง 2 ศิลปิน มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนในแนวทางของตน และไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นผลงานที่เกิดจากการร่วมมือกัน ผลงานชิ้นนี้จึงมีความพิเศษเป็นอย่างมากที่ทั้งคู่ได้สร้างสรรค์ผลงาน จิตรกรรมสีอะคริลิกบนแผ่นป้ายโฆษณา แสดงความขบขันและการเสียดสีล้อเลียนตามแบบฉบับของศิลปะกราฟฟิตี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งสังเกตได้จากการเล่นกับโลโก้ของแบรนด์เครื่องดื่มยักษ์ใหญ่สองแบรนด์ แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปของโลกทุนนิยมจากโลกมหาอำนาจที่สามารถสร้างอิทธิพลต่อการบริโภคของคนบนโลก ทั้งยังสอดแทรกแนวคิดวัฒนธรรมประชานิยมไว้




“TIGER/เสือ” โดย ถวัลย์ ดัชนี (ปี 2551) เทคนิค: Oil on canvas ราคาประเมิน:  4,000,000 – 5,000,000 บาท 

 ผลงานจิตรกรรมสีน้ำมันบนผ้าใบของถวัลย์ ดัชนี ชิ้นนี้เป็นอีกหนึ่งผลงานที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์สัตว์ป่าออกมาได้อย่างทรงพลังเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นมวลกล้ามเนื้อที่ถวัลย์ขัดเกลาให้เส้นมีความเคลื่อนไหว ทั้งยังมีการจัดองค์ประกอบให้เห็นขนาดของเขี้ยวเสืออย่างเด่นชัด ซึ่งเป็นการช่วยผลักเน้นความดุดันของสัตว์ป่าให้ออกมาได้อย่างเต็มที่รวมถึงรายละเอียดด้านบนของภาพซึ่งปรากฏเป็นรูปดวงดาวกำลังเคลื่อนตัวไปยังทิศทางเดียวกันกับเสือ ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจในส่วนของการสร้างความหมายได้เป็นอย่างดี และความพิเศษของผลงานชิ้นนี้คือการสร้างจังหวะที่มีความหมดจดและในขณะเดียวกันยังสร้างอารมณ์ร่วมระหว่างผลงานกับผู้ชมได้อย่างแยบยล


“บึงบัว” โดย ทวี นันทขว้าง (ปี 2528) เทคนิค: Acrylic on canvas ราคาประเมิน: 4,500,000 – 5,500,000 บาท

ผลงานจิตรกรรมสีน้ำมันบนผ้าใบชิ้นนี้ของทวี นันทขว้าง เป็นหนึ่งในผลงานที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการถ่ายทอดความงามของบึงบัวในอุดมคติออกมาได้อย่างมีเอกลักษณ์ ทั้งในแง่ของทักษะฝีมือที่ชำนาญต่อการเลือกใช้ทีแปรงและชุดสีโทนเย็นซึ่งช่วยผลักระยะของผลงานได้อย่างนุ่มลึก รวมถึงการประสานกันของสีโทนร้อนในการขับเน้นความงามของดอกบัวและใบบัว ที่สำคัญคือการถ่ายทอดบรรยากาศที่ช่วยส่งอารมณ์ของผู้ชมให้เข้าถึงความสงบของจิตใจ หรืออาจจะกล่าวได้ว่าภาพของผลงานนั้นมีลักษณะแบบเหมือนจริงแต่สร้างความรู้สึกเหนือจริงผ่านความละเอียดลออในการเลือกจัดองค์ประกอบของทวี


“DREAM OF THE HOMELESS (ฝันของคนใฝ่บ้าน)” โดย สุเชาว์ ศิษย์คเณศ (ปี 2528) เทคนิค: Oil on canvas ราคาประเมิน: 3,500,000 – 4,500,000 บาท 

 ภาพผลงานสีน้ำมันบนผ้าใบชื่อ "ฝันของคนใฝ่บ้าน" ของสุเชาว์ ศิษย์คเณศ สะท้อนความเหงาและความเศร้าของศิลปินผ่านผลงานศิลปะได้อย่างรุนแรง จากการใช้สีโทนเย็นเป็นแกนในการนำเสนอเรื่องแสดงถึงความหม่นหมอง รวมถึงการเลือกใช้เส้นเบาบางไร้ความแข็งแรงที่คอยค้าจุนรูปทรงของบ้าน ยิ่งทำให้ผลงานสร้างอารมณ์สะเทือนใจให้กับผู้ชม สิ่งเหล่านี้เกี่ยวโยงกับเรื่องราวเมื่อยังมีชีวิตอยู่นั้นต้องเจอกับความยากลำบากในการใช้ชีวิต มีเพียงการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเพียงเท่านั้นที่คอยค้ำจุนชีวิต ซึ่งรูปแบบการทำแนวนี้สอดคล้องกับวิถีของลัทธิเอกซเพรสชันนิสม์ และผู้ที่เห็นคุณค่าทั้งยังคอยสนับสนุนผลงานของสุเชาว์ไว้มากมาย รวมถึงผลงาน "ฝันของคนใฝ่บ้าน" คือ พีระ ดิษฐบรรจง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันที่ทำให้สุเชาว์มีแรงใจในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ 


“สุพรรณหงส์” โดย จำรัส เกียรติก้อง (ปี 2495) เทคนิค: Oil on canvas ราคาประเมิน: 1,500,000 – 2,000,000 บาท 

 จำรัส เกียรติก้อง เป็นศิลปินที่มีความสามารถในการเขียนภาพจิตรกรรมสีน้ำมันอย่างหาใครเทียบได้ยาก โดยรูปแบบการนำเสนอผลงานของจำรัสมี 2 รูปแบบ คือ การวาดภาพเหมือนบุคคลสำคัญของไทยและการวาดเหตุการณ์สำคัญ ด้วยความมุ่งมั่นที่มี ส่งผลให้เกิดความเรียบคมในการปาดป้ายฝีแปรงลงบนผืนผ้าใบ ดั่งเช่นผลงานชิ้นนี้ซึ่งเป็นการวาดภาพเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ล่องในแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบกับจากหลังเป็นวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร ด้วยการใช้สีส้มเป็นสีหลักในการสร้างบรรยากาศ ส่งผลให้ผลงานสื่ออารมณ์ถึงความรุ่งเรืองของวัฒนธรรมไทย” 


“ม้าพบธรรม (ปีมะเมีย)” โดย เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ (ปี 2552) เทคนิค: Acrylic on canvas ราคาประเมิน: 3,500,000 – 4,500,000 บาท 

 ผลงาน "ม้าพบธรรม (ปีมะเมีย)" มีความน่าสนใจในการผสมผสานความเหมือนจริงทางกายภาพของรูปม้าและความเป็นอุดมคติจากลักษณะจิตรกรรมไทยประเพณี และถือเป็นทักษะที่แปลกตาของ ศิลปิน ไม่เพียงเท่านั้น เนื่องจากการใช้สีที่มีความดุดันอย่างสีแดงในพื้นหลังก็นับได้ว่าแตกต่างออกไปจากชุดสีที่เฉลิมชัยใช้เช่นกัน แต่ถึงกระนั้นผลงานกลับยังสามารถเชื่อมโยงถึงเอกลักษณ์ของงานจิตรกรรมฝาผนังไทยได้อย่างน่าสนใจ เนื่องจากสีแดงเป็นอีกหนึ่งบทบาทในการแยกมิติของพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์และโลกมนุษย์ รวมถึงรายละเอียดของผลงานศิลปินก็ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของเส้นสายลายไทยที่มีความพลิ้วไหว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นการแสดงฝีมืออันยอดเยี่ยมของศิลปิน


“CHILDREN'S GAME / ขี่ม้าส่งเมือง, Ed.3/9” โดย เขียน ยิ้มศิริ (ปี 2504) เทคนิค: Bronze ราคาประเมิน: 1,200,000 – 1,800,000 บาท 

ผลงานประติมากรรมสำริด "ขี่ม้าส่งเมือง" ของเขียน ยิ้มศิริ ชิ้นนี้ ถ่ายทอดภาพการละเล่นไทยที่นิยมอย่างมากในอดีต ผลงานแสดงให้เห็นถึงความเรียบง่ายซึ่งเป็นลักษณะการแสดงออกอันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปิน คือการลดทอนรายละเอียดของแบบเพื่อขับเน้นแนวคิดที่ศิลปินต้องการนำเสนอ อีกทั้งความสามารถในการเชื่อมประสานรูปทรงได้อย่างกลมกลืน รวมถึงการผสมผสานความเป็นอุดมคติของประติมากรรมไทยสมัยสุโขทัย ในหนังสือนำชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ยังได้กล่าวถึงผลงานชิ้นนี้ว่ามีความกลมกลืนของเส้นและรูปทรง สร้างความรู้สึกให้แลดูอ่อนพลิ้ว มีความเคลื่อนไหว อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในผลงานที่สร้างก่อนศิลปินจะทำงานประติมากรรมแนวกึ่งนามธรรม


“ครบรอบ 60 ปี การเดินทางด้วยรถ Lambretta จากประเทศไทยถึงเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี” โดย อินสนธิ์ วงค์สาม (ปี 2566 - 2568) เทคนิค: Painted on Lambretta X300 SR และ Painted on helmet ราคาประเมิน: 1,000,000 – 1,500,000 บาท 

 เมื่อย้อนกลับไปใน พ.ศ. 2504 หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยศิลปากร อินสนธิ์ วงค์สาม กับจักรยานยนต์ยี่ห้อ Lambretta ได้เริ่มเส้นทางจากไทยสู่ประเทศอิตาลี เมืองบ้านเกิดของศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี การเดินทางด้วยระยะทางกว่า 20,000 กิโลเมตร ทั้งในยุโรปและอเมริกา กลายเป็นเส้นทางชีวิตในต่างแดนของศิลปินถึง 12 ปี ทั้งยังเป็นประสบการณ์ที่ได้ขัดเกลามุมมองทางศิลปะรวมถึงฝีมือในการถ่ายทอดความคิดของศิลปิน โดยผลงานชิ้นนี้สร้างขึ้นเพียงคันเดียวเท่านั้น เพื่อระลึกถึงการเดินทางที่เคยไปในอดีตด้วยรถยี่ห้อเดียวกัน ศิลปินทั้งออกแบบและเขียนภาพลงบนรถกับหมวกเอง ด้วยรูปแบบนามธรรมอันเป็นเอกลักษณ์

รวมถึง “BLUE IN DIMENSIONS / มิติสีน้ำเงิน” โดย ประเทือง เอมเจริญ (ปี 2535) เทคนิค: Oil on canvas ราคาประเมิน 650,000 – 850,000 บาท และ “UNTITLED” โดย ชาติชาย ปุยเปีย (ปี 2554) เทคนิค: Oil on canvas ราคาประเมิน 700,000 – 900,000 บาท เป็นต้น




The Art Auction Center ขอเชิญร่วมเปิดประสบการณ์กับนิทรรศการศิลปะ “WWW” ที่จะพาคุณมาเชื่อมต่อกับผลงานศิลปะ 136 ชิ้น โดยไม่ต้องใช้สัญญาณ...แต่ด้วยความรู้สึกแท้จริง 

นิทรรศการ “WWW” จัดแสดงระหว่างวันที่ 16–25 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.00–18.00 น. ณ ท่าพิพิธภัณฑ์

และการประมูลจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2568 เวลา 14.00 น. ณ ท่าพิพิธภัณฑ์


เชื่อมต่อสายตา เปิดใจรับรู้ และปล่อยให้ศิลปะพูดกับคุณเอง

เพราะในโลกที่คลิกเดียวอาจพาเราไปได้ทุกที่ ยังมีบางสิ่งที่ต้องใช้ ‘หัวใจ’ ในการเดินทางไปถึง


แชร์ :
LogoLogo
Logo
บริษัท อีเว้นท์ไทย จำกัด
47/313 อาคารไคตัค ชั้น 5 ถนนป๊อปปูล่า ต.บ้านใหม่
อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120
ติดตามเรา :
fbigttx
เครื่องหมายรับรอง :
Trustmarkthai
©2025 Eventthai Co.,Ltd. All rights reserved.
Version 1.3.1