fb
หน้าแรก /
รีวิว /
อีเว้นท์น่าสนใจ /
Diaspora นิทรรศการร่วมสมัยจากมุมมองและเรื่องเล่าของผู้พลัดถิ่นอย่างแท้จริง
อีเว้นท์น่าสนใจ
Diaspora นิทรรศการร่วมสมัยจากมุมมองและเรื่องเล่าของผู้พลัดถิ่นอย่างแท้จริง
Eventpass Team
เผยแพร่เมื่อ 09 มิ.ย. 2568
fav
fav

การโยกย้ายเป็นเรื่องที่ใครหลายคนไม่ค่อยอยากให้เกิดขึ้น เพราะในแต่ละสถานที่จะมีความทรงจำอยู่มากมาย รวมไปถึงวัฒนธรรม ประเพณี และเรื่องเล่า แต่ถ้าการย้ายแบบที่เราไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดหรืออีกนิยามคือ "การพลัดถิ่น" มันอาจจะเต็มไปด้วยความสูญเสียหรือมีความหมายอื่นที่มากว่านั้นซ่อนอยู่ วันนี้เลยอยากชวนทุกคนมาสำรวจสภาวะการพลัดถิ่น จากเรื่องเล่าของผู้มีประสบการณ์จริง ผ่านนิทรรศศิลปะร่วมสมัย Diaspora ที่จะทำให้เราเข้าใจคำว่า "บ้าน" อาจจะแฝงอยู่ในทุกการเดินทางก็ได้


Diaspora นิทรรศการร่วมสมัยจากมุมมองและเรื่องเล่าของผู้พลัดถิ่นอย่างแท้จริง



งานแสดงนี้เป็นนิทรรศการเดี่ยวครั้งที่ 5 ของ ศรชัย พงษ์ษา ศิลปินที่นำเสนอการสำรวจสภาวะการพลัดถิ่นผ่านศิลปะร่วมสมัยจากมุมมองและเรื่องเล่าของผู้พลัดถิ่นอย่างแท้จริง ในนิทรรศการนี้เลยจะเต็มไปด้วยเรื่องราวความเศร้าและการสูญเสีย ถ่ายทอดผ่านเชือกที่มัดเป็นปมเรียงกันเป็นรูปร่างของเรื่องราวในแต่ละช่วง ให้เราได้ใช้เวลากับผลงานศิลปะได้เข้าใจถึงอารมณ์เหตุการณ์ต่าง ๆ มากขึ้นนั้นเอง





เข้ามาเราจะได้เจอกับไฮไลต์เลยนั้นก็คือ Sala Win (River of No Return) หรืออีกชื่อ แม่น้ำที่ไม่มีวันย้อนกลับ โดยทุกคนจะเห็นผลงานเป็นเชือกที่มัดเป็นปมเอาไว้หลายจุด เราต้องมองภาพกว้าง ๆ ถึงจะเห็นภาพอันแท้จริงของผู้คนมากมาย ที่กำลังอพยพผ่านแม่น้ำที่คิดว่าปลอดภัยที่สุด ก่อนที่จะเข้าใจว่าแม้แต่แม่น้ำก็ไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว มันแฝงไปด้วยความเศร้ามาก ๆ เพราะสิ่งที่สื่อคือมุมมองสถานที่หนึ่งกับช่วงเวลา ที่ทำให้มองสถานที่นั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว





นอกจากผลงานไฮไลต์แล้ว ยังมีมีผลงานอื่น ๆ ที่ทำมาจากเชือกเช่นกัน โดยส่วนใหญ่แล้วผลงานทุกชิ้นจะแสดงการมีตัวตนของผู้พลัดถิ่น อาจจะเป็นลายนิ้วมือ วัฒนธรรม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือบุคคลที่เคยมีตัวตนจริง แต่มันจะปะปนหลากหลายอามรมณ์มาก ๆ เหมือนอยากจะให้ทุกคนได้เข้าใจว่าการย้ายถิ่นฐานมันยังเหลือสิ่งดี ๆ เอาไว้อยู่ ไม่ได้มีแต่ความสูญเสียและความเสียใจเท่านั้น




และอีกหนึ่งไฮไลต์ถ้าทุกคนได้ไปนิทรรศการ Diaspora ต้องไปอ่านที่มาของผลงาน ความหวังเหนือขอบฟ้า เพราะมันเหมือนโดนยิงจึ้งเข้ากลางใจจากประโยค "ข้าพเจ้ารอดตายมาเพื่อเล่าเรื่อง แต่ครอบครัวข้า หล่นหายกลางทะเล ไม่มีแม้หลุมศพ" มันสะท้อนถึงความโชคดีของใครหนึ่งคน ที่เราอาจจะไม่รู้เลยว่าเบื้องหลังนั้นเค้าสูญเสียอะไรไปบ้าง






วนมาอีกฝั่งเราจะได้เจอกับผลงานศิลปะที่เหมือนจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง โดยฝั่งนี้จะมีความใช้เชือกสีน้ำเงินมาตัดกับเชือกสีแดงให้ผลงานดูมีมิติมากยิ่งขึ้น แต่ในอีกความหมายสีน้ำเงินมันสื่อถึงความเศร้าได้ด้วยเช่นกัน อย่างภาพสุดท้ายที่ชื่อว่า เข็มทิศที่ไร้ทิศเหนือ เป็นภาพของผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงจากค่ายแม่ละ ที่ประกาศตัวว่ามาจากค่ายผู้ลี้ภัย สายตาทุกคนจะมองคุณด้วยความสงสาร และคาดหวังให้เรื่องราวมันเศร้าจับใจ





อยากให้ทุกคนมานิทรรศการ Diaspora เพราะเราจะได้เจอกับเรื่องราวที่ไม่เคยรู้มาก่อนอย่าง "การพลัดถิ่น" มันชวนให้ทุกคนได้เรียนรู้และเข้าใจถึงความสูญเสีย และถ้าลงดีเทลลึกไปอีกเราจะได้เข้าใจถึงความโชคดีของใครสักคน ที่เบื้องหลังมีเรื่องราวมากมายจนสามารถเล่าออกมาให้ทุกคนฟังจากประสบการณ์จริง นี้เลยเป็นอีกหนึ่งนิทรรศการศิลปะที่คุณห้ามพลาดจริง ๆ  เพราะฉะนั้นเรามาหาคำตอบ ถึงความหมายของคำว่า "บ้าน" จากการย้ายถิ่นฐานกันเถอะ

.

นิทรรศการ Diaspora

🗓️ 22 พฤษภาคม – 15 มิถุนายน 2568

📍RCB Photographers’ Gallery ชั้น 2 River City Bangkok

แชร์ :
LogoLogo
Logo
บริษัท อีเว้นท์ไทย จำกัด
47/313 อาคารไคตัค ชั้น 5 ถนนป๊อปปูล่า ต.บ้านใหม่
อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120
ติดตามเรา :
fbigttx
เครื่องหมายรับรอง :
Trustmarkthai
©2025 Eventthai Co.,Ltd. All rights reserved.
Version 1.3.1